เมนู

5. ปัญจมปฏิปทาสูตร


[172] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัมปทา 8 ประการนี้ 8
ประการเป็นไฉน คือ อุฏฐานสัมปทา 1 อารักขสัมปทา 1 กัลยาณ-
มิตตตา 1 สมชีวิตา 1 สัทธาสัมปทา 1 ศีลสัมปทา 1 จาคสัมปทา 1
ปัญญาสัมปทา 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัมปทา 8 ประการนี้แล.
คนหมั่นในการทำงาน ไม่ประมาท จัด
การงานเหมะสม เลี้ยงชีพพอเหมาะ รักษาทรัพย์
ที่หามาได้ มีศรัทธา ถึงพร้อมด้วยศีล รู้ถ้อยคำ
ปราศจากความตระหนี่ ชำระทางสัมปรายิกัตถ-
ประโยชน์เป็นนิตย์ ธรรม 8 ประการดังกล่าวนี้
ของผู้ครองเรือน ผู้มีศรัทธา อันพระพุทธเจ้า
ผู้มีพระนามอันแท้จริง ตรัสว่านำสุขมาให้ใน
โลกทั้งสอง คือ ประโยชน์ในปัจจุบันนี้และความ
สุขในภายหน้า บุญ คือ จาคะนี้ ย่อมเจริญแก่
คฤหัสถ์ ด้วยประการฉะนี้.

จบ ปฏิปทาสูตรที่ 5

6. ฉัฏฐปฏิปทาสูตร


[173] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัมปทา 8 ประการนี้ 8
ประการเป็นไฉน คือ อุฏฐานสัปทา 1 อารักขสัมปทา 1 กัลยาณ-
มิตตตา 1 สมชีวิตา 1 สัทธาสัมปทา 1 สีลสัมปทา 1 จาคสัมปทา 1
ปัญญาสัมปทา 1.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อุฏฐานสัมปทาเป็นไฉน กุลบุตรในโลก
นี้ เลี้ยงชีพด้วยความหมั่นประกอบการงาน คือ กสิกรรม พาณิชย-
กรรม โครักขกรรม รับราชการฝ่ายทหาร รับราชการฝ่ายพลเรือน
หรือศิลปอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นผู้ขยันไม่เกียจคร้านในการงานนั้น
ประกอบด้วยปัญญาเครื่องสอดส่อง อันเป็นอุบายในการงานนั้น
สามารถจัดทำได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอุฏฐานสัมปทา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อารักขสัมปทาเป็นไฉน กุลบุตรในโลก
นี้ มีโภคะที่หามาได้ด้วยความเพียร สั่งสมด้วยกำลังแขน มี
เหงื่อไหลโทรมตัว ชอบธรรม ได้มาโดยธรรม เขารักษาคุ้มครอง
โภคทรัพย์เหล่านั้นไว้ได้พร้อมมูล ด้วยทำไว้ในใจว่า ไฉนหนอ
พระราชาไม่พึงริบโภคทรัพย์เหล่านี้ของเรา โจรไม่พึงลัก ไฟไม่
พึงไหม้ น้ำไม่พึงพัดไป ทายาทผู้ไม่เป็นที่รักไม่พึงลักไป ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอารักขสัมปทา.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็กัลยาณมิตตตาเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย กุลบุตรในโลกนี้ อยู่อาศัยในบ้านหรือนิคมใด ย่อมดำรง
ตนเจรจาสั่งสนทนากับบุคคลในบ้านหรือนิคมนั้น ซึ่งเป็นคฤหบดี